พม. พร้อมสนับสนุนภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนร่วมสร้างสังคมแห่งความเท่าเทียมระหว่างเพศ ภายใต้แนวคิดหลัก Pride for All : ทุกเพศ ทุกคนเท่าเทียมกัน

วันนี้ (4 มิ.ย. 68) เวลา 09.30 น. นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด.พม.) นำทีมผู้บริหาร พม. และภาคีเครือข่าย ติดเข็มกลัดไพรด์ให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ร่วมเฉลิมฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจ (Pride Month) พร้อมประกาศรัฐบาล โดย พม. จะสนับสนุนภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนร่วมสร้างสังคม    แห่งความเท่าเทียมระหว่างเพศ ภายใต้แนวคิดหลัก Pride for All : ทุกเพศ ทุกคนเท่าเทียมกัน ณ บริเวณโถงกลาง                ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล 

นายอนุกูล กล่าวว่า เดือนมิถุนายนถือเป็นเดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (Pride Month) เพื่อร่วมสดุดีและระลึกถึงเหตุการณ์การจลาจลสโตนวอลล์ ในวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 1969 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศในการต่อสู้เรียกร้องสิทธิ โอกาส และเสรีภาพการใช้ชีวิตอย่างเท่าเทียมในสังคม   ตามหลักการสิทธิมนุษยชน และต่อมาได้ขยายประเด็นการเคลื่อนไหวเพื่อส่งเสริมให้บุคคลทุกเพศภาคภูมิใจในคุณค่าและศักดิ์ศรีของตนเอง รวมทั้งสร้างการยอมรับในความแตกต่างหลากหลาย การเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของบุคคลทุกเพศ ผมขอชื่นชมความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการสร้างสังคมที่มีความมั่นคง ปลอดภัยพร้อมโอบรับ  ทุกความแตกต่างหลากหลาย

นายอนุกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า พม. มุ่งมั่นขับเคลื่อนภารกิจโดยคำนึงถึงหลักการสิทธิมนุษยชนเป็นสำคัญ และ              ได้ดำเนินงานเพื่อคุ้มครอง ป้องกัน พิทักษ์สิทธิและส่งเสริมให้เกิดสังคมแห่งความเท่าเทียมระหว่างเพศอย่างต่อเนื่อง              ผลการดำเนินงานสำคัญ เช่น การดำเนินงานด้านกฎหมาย พม. ได้ดำเนินการ (1) ประกาศใช้พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ เมื่อปี 2558 เป็นกลไกสำคัญในการคุ้มครองผู้ถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศและป้องกันมิให้มีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ (2) ทบทวนและรวบรวมกฎหมายที่มีเนื้อหาที่เลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ         และ (3) จัดทำกฎหมายเพื่อการรับรองเพศ การดำเนินงานด้านมาตรการและกลไก พม. ได้ดำเนินการ (1) จัดทำคู่มือการจัดทำงบประมาณที่คำนึงถึงมิติเพศภาวะ (2) ผลักดันมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในการทำงาน      (3) การส่งเสริมให้หน่วยงาน/องค์กรมีนโยบาย กฎ ระเบียบ และกลไกต่าง ๆ ที่เอื้อต่อการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ          (4) สนับสนุนให้มีสวัสดิการที่เอื้อต่อการทำงาน การพัฒนาศักยภาพเพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ และ (5) ขับเคลื่อนศูนย์ส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ (Gender Equality Center) ในระดับจังหวัด การดำเนินงานด้านการสร้าง    การมีส่วนร่วมทางสังคม พม. โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กองทุนส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ ได้สนับสนุนงบประมาณให้แก่ภาคีเครือข่ายไปขับเคลื่อนความเท่าเทียมระหว่างเพศที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัญหา ความต้องการและบริบทที่แท้จริงของสังคมในแต่ละพื้นที่ โดยเริ่มสนับสนุนงบประมาณตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนงบประมาณให้ภาคีเครือข่ายไพรด์ไปจัดกิจกรรม Pride Month ในจังหวัดต่าง ๆ ในปีนี้ด้วย

นายอนุกูล กล่าวต่อไปว่า กิจกรรมที่ทุกภาคส่วนร่วมกันจัดขึ้นตลอดช่วงเดือนมิถุนายนนี้ (Pride Month) สะท้อนให้เห็นว่าทุกภาคส่วนพร้อมที่จะส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศให้เกิดในประเทศไทยอย่างจริงจัง และ พม. พร้อมรับฟังปัญหา        ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกฝ่ายเพื่อพัฒนาการดำเนินงาน และขจัดอุปสรรคซึ่งเป็นผลมาจากความแตกต่างหลากหลาย  ทางเพศ และปัจจัยซ้อนทับอื่น ๆ เพราะต้องการให้ทุกคนทุกเพศสามารถเข้าถึงสิทธิ โอกาส และทรัพยากรอย่างเต็มที่                และเกิดความเสมอภาคในสังคมไทยอย่างแท้จริง

          กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมเฉลิมฉลองเดือน          แห่งความภาคภูมิใจนี้ (Pride Month) ผมเชื่อมั่นว่า Pride Month จะไม่จำกัดเฉพาะเรื่องเพศ แต่เป็นช่วงเวลาที่บุคคลทุกคนได้รับการยอมรับและได้ภาคภูมิใจในคุณค่าและศักดิ์ศรีของตนเอง รวมทั้งยอมรับและการเคารพในความแตกต่างหลากหลายของบุคคลอื่นด้วยเช่นกัน นายอนุกูลกล่าวตอนท้าย